สิ่งที่ต้องรู้ก่อนตัดสินใจทำ SEO สำหรับเว็บไซต์ออนไลน์ 2019

การทำ SEO เป็นเทคนิคการตลาดที่นิยมมากในปัจจุบัน เนื่องจากมีข้อดีคือประหยัดไม่ต้องเสียค่าโฆษณาให้ Search Engine อย่าง Yahoo Bing หรือ Google และยังทำให้มียอดขายในระยะยาวดีขึ้น แต่ก็มีข้อจำกัดด้วยหลักการของการทำ SEO ที่นักพัฒนาเว็บไซต์หรือเจ้าของแบรนด์สินค้าต่าง ๆ ควรทำความเข้าใจ เพื่อจะได้ตั้งเป้าหมายอย่างเหมาะสม ดังนี้

SEO หรือ Search Engine Optimization ประกอบด้วย On-page SEO เช่น การใส่คีย์เวิร์ดที่ตรงกับการค้นหาของกลุ่มเป้าหมายในเพจ การปรับโครงสร้างเว็บไซต์ให้ใช้งานง่าย การเชื่อมโยงลิงก์หรือ Off-page SEO กับเว็บไซต์ภายนอก ซึ่งต้องใช้เวลาในการเรียนรู้และต้องทำอย่างสม่ำเสมอ จึงจะเห็นผลทั้งยอดขายและจำนวนลูกค้า

ข้อดีของการทำ SEO คือ

1. ทำให้ไม่ต้องตั้งงบประมาณสำหรับการจ้างทำโฆษณา ที่มีค่าใช้จ่าย 5-6 หลักต่อโครงการ

2. ไม่ต้องกังวลว่าจะมีการคิดค่าใช้จ่ายจาก Bing, Yahoo หรือ Google เนื่องจากผลอันดับ SEO ขึ้นกับความสามารถและความสม่ำเสมอของนักพัฒนาเว็บไซต์โดยตรง ต่างจากการเช่าพื้นที่โฆษณา ที่ต้องจ่ายแบบ PPC หรือ Pay per click

3. ไม่ถูกบริษัทคู่แข่งยักษ์ใหญ่ยึดครองพื้นที่ อันดับต้น ๆ ในหน้าต่างสืบค้นได้ เนื่องจากเป็นการสะสมข้อมูล ให้ระบบ AI ทำการวิเคราะห์และแสดงผลการสืบค้นแตกต่างกันไปตามการอัพเดทเว็บไซต์ทุกครั้ง ไม่สามารถที่จะล็อกหรือผูกขาดตำแหน่งในการนำเสนอได้

อย่างไรก็ตาม เมื่อเห็นข้อดีของการทำ SEO แล้วยังมีข้อจำกัดของการทำ SEO ที่ควรทราบ คือ

1. ต้องใช้ระยะเวลาในการสะสมข้อมูล เพื่อให้บทความมีคุณภาพ การเลือก keyword ที่เหมาะสมกับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย เช่น เป็นวลียาว หรือ Long-tailed Keyword จะทำให้มีโอกาสถูกสืบค้นเจอได้มากขึ้นตามจำนวนบทความที่ผลิตมากขึ้นด้วย โดยระยะเวลาในการเห็นผล SEO จะอยู่ที่ 6 เดือนหรือ 1 ปีขึ้นไป ทั้งด้านยอดขายและลูกค้าเก่าและใหม่

2. ไม่สามารถที่จะหยุดนิ่งการพัฒนาเว็บไซต์ได้เพราะจะมีผลต่ออันดับ SEO ทันที ตัวอย่างเช่น บริษัท A และ B ขายเครื่องกรองน้ำเช่นเดียวกัน แต่บริษัท A หยุดการผลิตบทความที่มีคุณภาพไปหลายเดือน เมื่อเทียบกับคู่แข่ง คือ บริษัท B ที่โพสต์บทความใหม่ ๆ สม่ำเสมอ อันดับ SEO ของบริษัท A ย่อมต่ำกว่า บริษัท B

3. หากคุณไม่มีเวลาที่จะทำ SEO ด้วยตัวเอง ก็จำเป็นต้องจ้างบริษัทที่มีความสามารถในการผลิตบทความ SEO หรือจ้างผู้บริหารเว็บไซต์ เพื่อการดูแลโดยภาพรวม ซึ่งจะมีค่าใช้จ่ายเป็นค่าจ้างรายเดือนหรือตามสัญญา

จะเห็นได้ว่า การทำ SEO มีทั้งข้อดีและข้อจำกัดที่ควรต้องศึกษา หากต้องการผลลัพธ์รวดเร็ว ควรทำการประชาสัมพันธ์เว็บไซต์ด้วยวิธีอื่นร่วมด้วย เช่น SEM หรือ Search Engine Marketing หรือการโปรโมทผ่านทางสื่อโซเชียลอื่น ๆ เช่น Facebook หรือ Instagram ที่ตรงกับกลุ่มเป้าหมาย แต่ก็ต้องมีการวางแผนอย่างเหมาะสมเช่นเดียวกัน

ข้อดีของการทำ SEO

ทำ SEO อย่างไรให้ตอบโจทย์ผู้บริโภค

ก่อนอื่นต้องเข้าใจก่อนว่าจริง ๆ แล้วผู้บริโภคไม่ได้ต้องการผลิตภัณฑ์หรือบริการของเราไปเสียทุกคน เพราะแต่ละคนจะมีความต้องการเป็นของตัวเอง จึงเป็นไปไม่ได้เลยที่จะเหมารวมว่าทุกคนน่าจะซื้อสินค้าหรือบริการของเรา เพราะหากเจาะลึกลงไปในเชิงของการตลาดแล้ว พฤติกรรมของผู้บริโภคจะถี่ยิบย่อยจนเราไม่อาจจะกำหนดกฎเกณฑ์อะไรได้เลย สิ่งที่พอจะทำได้และควรทำสำหรับผู้ประกอบการคือ นำเสนอสิ่งที่คิดว่าจะต้องตอบโจทย์ ‘กลุ่มเป้าหมาย’ เท่านั้น เพียงแค่เฉพาะกลุ่มนี้เท่านั้นที่จะทำให้ธุรกิจของเราเจริญเติบโตขึ้นได้

อยากให้คนสนใจธุรกิจ ต้องทำอย่างไร ?

แต่เราจะนำเสนออย่างไร ให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายให้ได้มากที่สุดล่ะ ? จะนำเสนออย่างไรให้เขาสนใจในธุรกิจของเรา ? ดังนั้นการทำ SEO จึงเข้ามามีบทบทที่จะสามารถตอบปัญหาเหล่านี้ได้ เพราะการทำ SEO คือการสร้าง Content คุณภาพ นำเสนอข้อมูลให้ตรงกับความต้องการของกลุ่มเป้าหมาย โดยการอาศัย Keyword ใน Search Engine ดัง ๆ อย่าง Google เป็นตัวช่วยให้มั่นใจได้ว่าสิ่งที่เราต้องการจะนำเสนอนั้น กลุ่มเป้าหมายของเราจะเห็นมากที่สุด ถึงตรงนี้จะเห็นได้ว่าการทำ SEO สามารถเจาะกลุ่มตลาดได้อย่างตรงเป้าหมายอีกทั้งยังครอบคลุมได้อย่างทั่วถึงอีกด้วย แล้วทีนี้คำถามต่อมาก็คือ ถ้ากลุ่มเป้าหมายเห็น Content ของเราแล้วเขาจะสนใจหรือไม่ ? ตรงจุดนี้การทำ SEO นอกจากจะนำเสนอในเรื่องของผลิตภัณฑ์หรือบริการแล้ว ยังนำเสนอข้อมูลดี ๆ ให้กับกลุ่มเป้าหมายด้วย ไม่ใช่เน้นเพียงการขายอย่างเดียว แต่เป็นการให้ข้อมูลที่คิดว่าจะเป็นประโยชน์ต่อลูกค้าเราได้ จึงไม่แปลกเลยถ้ากลุ่มเป้าหมายจะติดตามเว็บไซต์ของเราเพื่อติดตามข้อมูลดี ๆ วิธีการนี้เป็นการรักษาฐานลูกค้าเก่าได้อย่างเหนียวแน่นและยังเป็นการขยายฐานลูกค้าที่จะมีขึ้นในอนาคตอีกด้วย เพราะหัวใจหลักของการทำ SEO ก็คือเพื่อนำเสนอ Content ให้ตรงกลุ่มเป้าหมายที่สุดและจำนวนมากที่สุดนั่นเอง

อยากให้คนสนใจธุรกิจ ต้องทำอย่างไร

การทำ SEO ให้ตอบโจทย์ผู้บริโภคที่ดีนั้น จะต้องไม่ยึดติดกับสิ่งที่เราต้องการนำเสนอเท่านั้น แต่จะต้องคิดในมุมมองของผู้บริโภคด้วยว่าเขาต้องการอะไร เราจึงคิดทำ Content คุณภาพเพื่อให้ข้อมูลเหล่านั้นแก่กลุ่มเป้าหมาย วิธีนี้จะทำให้ดูน่าเชื่อถือเพราะเรามีข้อมูลที่ดี ที่สามารถตอบทุกคำถามคาใจของลูกค้าได้ จึงเป็นการสร้างความเชื่อมั่นให้ลูกค้ามั่นใจว่าเขาจะได้รับสินค้าหรือบริการจากเราอย่างดีที่สุดเท่าที่จะหาได้ในท้องตลาดนี้แล้ว แต่อย่างไรก็ตามอย่าลืมว่าสิ่งที่เราจะนำเสนอ ต้องเป็นความจริงเท่านั้น ไม่โอ้อวดสรรพคุณเกินไป เพราะก่อนที่ผู้บริโภคจะเลือกซื้อสินค้าหรือบริการใดย่อมมีการเปรียบเทียบ ค้นหาข้อมูลความเป็นจริง หากพบว่ามีการโฆษณาเกินจริง จะทำให้ขาดความน่าเชื่อถือไปโดยปริยาย

จุดอ่อนของการทำ SEO เรื่องที่ควรรู้

การทำ SEO เพื่ออัพอันดับของเวบเพจของคุณให้ขึ้นเป็น 1 ใน 3 ของการสืบค้นไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เป็นเรื่องที่คุ้มค่าในการลงทุน เนื่องจากสามารถเพิ่มโอกาสในการพบปะลูกค้ากลุ่มเป้าหมายด้วยการอยู่ใน ทำเลทองออนไลน์ ซึ่งเท่ากับเพิ่มเปอร์เซ็นต์การเติบโตรายได้ทั้งจากการรักษาฐานลูกค้าเก่าและขยายตัวของกลุ่มลูกค้าใหม่ในธุรกิจคุณ แต่อย่างไรก็ตาม การทำ SEO ในปัจจุบันยังมี จุดอ่อน อีกหลายอย่างที่คุณในฐานะผู้เป็นเจ้าของธุรกิจหรือเป็นผู้รับจ้างทำ SEO ต้องคำนึงถึง ดังนี้

สิ่งที่ผู้รับจ้างทำ SEO ต้องคำนึงถึง

1. มี timing

จำเป็นที่คุณต้องใจเย็นกับการรอให้เห็นผลของ SEO อย่างชัดเจนที่หลายสัปดาห์หรือหลายเดือน โดยเฉพาะธุรกิจที่มีคู่แข่งจำนวนมาก เช่น ทัวร์ การท่องเที่ยว เพราะทุกบริษัทที่เปิดหน้าร้านออนไลน์ ล้วนจ้างคนทำ SEO ที่มีประสบการณ์แบบมืออาชีพมาเป็นผู้ช่วยกันทั้งนั้น

2. พัฒนาเทคนิคเสมอ

ผู้รับจ้างทำ SEO ต้องไม่หยุดนิ่งที่จะเรียนรู้เทคนิคและเพิ่มพูนประสบการณ์ใหม่ ๆ เพื่อให้บริษัทที่จ้างเห็นผลงานจากการทำ SEO ที่สมบูรณ์แบบที่สุด เพราะการหยุดนิ่งในการเรียนรู้เทคโนโลยีระบบการสืบค้นข้อมูล จะเท่ากับทำให้คู่แข่งรุดหน้าก้าวเหนือเราเสมอ

3. ต้องหาวิธีวัดผล

ธุรกิจที่จ้างทำ SEO ส่วนใหญ่หากไม่มีดัชนีที่ชี้วัดผลในการทำ SEO ที่ชัดเจน จะไม่สามารถบอกได้ว่า ลูกค้าที่เพิ่มขึ้นจากการทำ SEO มากน้อยเพียงใด หรือมีเปอร์เซ็นต์ยอดขายส่วนไหนที่มาจากการทำ SEO ตรงนี้เป็นสิ่งที่ต้องปรึกษาเฉพาะกับกูรูด้าน SEO ในการสร้างเครื่องมือวัดผลที่เหมาะสมกับแต่ละธุรกิจ

4. มีข้อจำกัดด้านคีย์

คีย์หรือ keywords ที่ search engine ให้ใช้สำหรับการสืบค้น ห้ามเกิน 5 คำ ทำให้แม้จะอยากใส่หลาย ๆ คีย์อัดแน่นกว่านั้น ก็จะเกิดผลเสียมากกว่าผลดี และอาจทำให้ content ที่ได้มีความไม่เป็นธรรมชาติและทำให้กลุ่มเป้าหมายอ่านแล้วเกิดความรู้สึกแง่ลบแทน

5. ผลการสืบค้นไม่หยุดนิ่ง

ลำดับของการขึ้นหน้าโชว์แสดงผล ไม่มีคำว่าหยุดนิ่งหรือ fix อันดับได้ เนื่องจากการอัพเดตของแต่ละเว็บไซต์มีตลอดเวลา จึงจำเป็นต้องทำ SEO อย่างต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ

6. มีช่วง GAP ในการอัพเดต

มีการเก็บสถิติพบว่าต้องใช้เวลา 1 – 4 สัปดาห์ในการทำงานของ Robots เพื่อจัดอันดับใหม่ ๆ อยู่เสมอ ทำให้ผลของการทำ SEO ต้องมีช่วงรอจังหวะอยู่บ้าง

7. ไม่มีใครรู้อัลกอริทึ่มที่แท้จริง

ระบบ algorithm ของเครื่องมือสืบค้นมีความเป็นอัตลักษณ์ของตัวเอง ไม่มีใครสามารถรู้กลไกอย่างลึกซึ้งแน่นอนได้ ตรงนี้เป็นจุดอ่อนที่เป็นขีดจำกัดของมนุษย์

จะเห็นได้ว่า แม้ผู้มีประสบการณ์ในการทำ SEO ก็ยังมีจุดอ่อนที่ไม่สามารถควบคุมได้ การจ้างทำ SEO จึงต้องเผื่อใจไว้สำหรับปัจจัยเหล่านี้ การทำธุรกิจจึงควรให้ เวลา เป็นตัวพิสูจน์ คุณภาพของงานบริการและสินค้า ที่มีความสำคัญไม่น้อยไปกว่าการทำ SEO

สิ่งที่ผู้รับจ้างทำ SEO ต้องคำนึงถึง

คอนเทนต์ สำหรับ youtube

คอนเทนต์คือสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำ SEO เพราะมันคือตัวขับเคลื่อนและทำให้ผู้คนสนใจเว็บไซด์นั้นๆไม่ว่าจะเป็นคอนเทนต์แบบไหนเช่น บทความ , คลิป , รูป และอื่นๆที่ถือว่าเป็นคอนเทนต์ในการนำเสนอเพราะมันคือปัจจัยหลักที่สื่อให้คนอื่นรู้ว่าเว็บไซด์นั้นต้องการสื่ออะไรเช่น ขายสินค้า , ให้ความรู้ , ดูหนัง ,ฟังเพลง ,และอื่นๆเท่าที่มีการทำกันในตอนนี้ หลายคนปฎิเสธไม่ได้ว่า คอนเทนต์ดีๆ สามารถทำให้เว็บทะยานขึ้นอันดับ SEO ได้ไวเพราะหากเนื้อหามีคุณภาพ มีความสดใหม่ ไม่ซ้ำใคร ก็จะยิ่งทำให้ติดอันดับได้เร็วขึ้น

คอนเทนต์ คือสิ่งที่ขาดไม่ได้ในการทำ SEO

รูปแบบของ คอนเทนต์ ที่นิยมคือ บทความ ซึ่งบทความนั้นจะเป็นตัวขยายความของเว็บไซด์ได้ดีที่สุด และเป็นการนำเสนอเรื่องราวที่เว็บอยากให้คนรู้เช่น หากทำเว็บขายของแน่นอนว่า บทความหลักจะต้องเป็นการกล่าวถึงสินค้า , การบรรยายสรรพคุณ , และการทำบทความที่เกี่ยวข้อง แน่นอนว่ามันอาจจะดูไม่ยากแต่มันไม่ง่ายที่เราจะสร้างบทความคุณภาพให้ตรงกับหลัก SEO หลายคนบอกว่าง่ายแค่เขียนๆ แต่คุณลองนึกดูว่าหากต้องใช้คีย์เวิร์ดเดิมๆ ในการทำบทความและเขียนไม่ให้ซ้ำกัน ไม่ว่าจะเป็นสำนวนหรือรูปแบบบทความ ความแตกต่างเพื่อให้เป็นจุดสนใจมันต้องมีและนั่นคืองานที่ยากสำหรับการทำบทความ

คอนเทนต์ กับ การทำ SEO

หรือคอนเทนต์ในแบบอื่นๆเช่น คลิปวีดีโอ หรือ การนำภาพยนตร์ต่างๆมาลงในเว็บ หากเป็นเว็บแนวคลิป หลายคนบอกว่าส่วนมากทำใน youtube แต่ก็ปฎิเสธไม่ได้ว่ามันต้องมีแหล่งแชร์ให้คนรู้จักและความยากของการทำคลิปนั้นคือ การซ้ำเพราะหากทำคอนเทนต์สำหรับ youtube แล้วความสดใหม่มันจะลดลงเพราะบางคนใช้การตัดเสียงของคลิปต่างประเทศแล้วทำซับหรือพากษ์ไทยใหม่เข้าไป แน่นอนว่ามันอาจไม่โดนตรวจจับแต่มันก็ไม่ใช่คอนเทนต์คุณภาพ และที่สำคัญการทำ SEO สำหรับคอนเทนต์แนวนี้ก็ถือว่าน่าสนใจแต่สุดท้ายก็ต้องมีการทำบทความสั้นๆประกอบอยู่ดี

รูปแบบของคอนเทนต์ที่นิยมคือ บทความ

ที่นี้คุณพอจะเข้าใจแล้วใช่ไหมว่าคอนเทนต์สำคัญอย่างไรกับการทำ SEO และมีคอนเทนต์แบบไหนบ้าง ในคราวหน้าเราจะมาพูดถึงการทำบทความให้ถูกใจ Google กันรับรองว่าน่าสนใจและมีประโยชน์ ใครที่สนใจการทำ SEO เบื้องต้นก็สามารถนำไปปรับใช้ได้หรือค้นหาแนวทางที่น่าสนใจเพื่อเริ่มต้นการทำ SEO แต่หากเป็นมือเก่าอยากแบ่งปันข้อมูลก็ติดต่อแนะนำกันมาได้แสดงความคิดกันมาได้เรายินดีให้มีการแลกเปลี่ยนข้อมูลเพื่อประโยชน์ในอนาคตสำหรับคนทำ SEO

คอนเทนต์ในแบบอื่นๆเช่น คลิปวีดีโอ