การทำเว็บไซต์ SEO นอกจากการใช้เครื่องมือตัวช่วยเสริมคุณภาพอย่าง wordpress และ yoast SEO แล้ว ฯลฯ จำเป็นต้องมีการศึกษาเปรียบเทียบจากเว็บไซต์ทางธุรกิจอื่น ๆ เพื่อเพิ่มศักยภาพในการแข่งขันทางการค้าออนไลน์มากขึ้นด้วย
ซึ่ง Google SERPs เป็นหน้าจอรวมผลการสืบค้นหลังจากพิมพ์หาด้วยคีย์เวิร์ดหนึ่ง ๆ ซึ่งผู้ทำเว็บไซต์ทุกคนสามารถเรียนรู้เป็นกรณีศึกษาในประเด็นต่าง ๆ เพื่อเอามาต่อยอดพัฒนาเว็บไซต์ตัวเองให้ดีขึ้นได้
Google SERPs ย่อมาจากคำว่า Search Engine Result Pages ประกอบไปด้วยข้อมูล 2 ส่วน คือ
1. ส่วน organic SERPs
แสดงผลเว็บไซต์ SEO ที่ระบบ Google จัดลำดับจากข้อมูลสะสมทั้งด้าน On-page และ off-page SEO ของเว็บไซต์คุณภาพสูงไปต่ำ โดยทั่วไปแล้วเว็บไซต์ 1-10 อันดับที่อยู่ในหน้าแรกจะมีคุณสมบัติตรงตามหลัก SEO กว่าเว็บไซต์ที่อยู่ในหน้าหลัง ๆ
2. ส่วน Paid SERPs
หรือที่เรียกว่าสปอนเซอร์ลิงก์ หมายถึงเว็บไซต์ที่มีการประมูลพื้นที่โฆษณา มักจะปรากฏอยู่ทางด้านบนหรือล่างของหน้าต่างการสืบค้น
การทำเว็บไซต์ SEO โดยทั่วไปมุ่งเน้นผลระยะยาว และประหยัดค่าใช้จ่ายในการโฆษณา ผู้ที่พัฒนาเว็บไซต์ SEO อย่างต่อเนื่อง จะมีอันดับด้านบน ๆ ของ organic Google SERPs ได้ยาวนาน
ซึ่งหลักเกณฑ์ที่ระบบ algorithm ของ Google ใช้ในการคัดเลือกจัดวางลำดับเว็บไซต์ SEO ในส่วน organic SERPs ที่สำคัญ ได้แก่
1. ชื่อเรื่องหรือ title
ชื่อเรื่องจะปรากฏเป็นส่วนแรกให้คนเห็น หากตั้งชื่อได้น่าสนใจก็จะกระตุ้นให้มีคนคลิกเข้าไปในเว็บไซต์ เป็นการเพิ่มค่า Traffic หรือว่า Total clicks ในเว็บไซต์
2. Meta Description
คือ บทคัดย่อความยาวประมาณ 100 คำ เป็นตัวอักษรขนาดเล็กอยู่ใต้หัวข้อ Title เป็นการบอกคร่าว ๆ ว่าหากคลิกเข้ามาแล้วจะเจอเนื้อหาใดบ้าง
3. Keyword
ใน 1 บทความของแต่ละหน้าไม่ควรมี keyword เกิน 3 คำ และใส่ซ้ำไม่เกิน 4-5 ตำแหน่งต่อบทความ 1000 คำ แนะนำให้ใช้คีย์เวิร์ดที่มาจากการวิเคราะห์ด้วย Google keyword planner จะช่วยให้บทความมีประสิทธิภาพสื่อสารถึงผู้อ่านได้ดียิ่งขึ้น
4. ความยาว
ยิ่งเนื้อหายาว 1000-2000 คำ ก็จะยิ่งเพิ่มระดับ SEO ได้ดีขึ้น ถ้ามีการวิเคราะห์ประเด็นในเชิงลึกและกว้าง ก็จะเป็นประโยชน์ต่อผู้อ่าน สร้างความดึงดูดใจและเป็นเอกลักษณ์ให้กับเว็บไซต์ด้วย
หากคุณต้องการทดสอบ ให้ลองพิมพ์ keyword ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจของคุณลงไป หากเจอเว็บไซต์ตัวเองอยู่ในอันดับ 1-10 ของหน้าแรกแสดงว่าทำ SEO มาเหมาะสมแล้ว แต่หากเจอแต่เว็บไซต์ของคู่แข่ง ให้พิจารณาจากประเด็นที่เรากล่าวมา จะทำให้เห็นทิศทางที่ควรพัฒนาเว็บไซต์ตัวเองได้
หากรู้หลักการในการทำเว็บไซต์ SEO ที่ดี และมาศึกษาตัวอย่างจากเว็บไซต์ที่ประสบความสำเร็จใน Google SERPs ดังที่ปรากฏอยู่ในอันดับต้น ๆ เสมอ ก็จะช่วยให้คุณเห็นภาพที่ชัดเจน และนำไปปรับปรุงเพื่อเพิ่มยอดขายและขยายฐานลูกค้าให้กับเว็บไซต์ธุรกิจของตัวเองได้มากขึ้น